ดอกทานตะวันที่ฉันรัก
ความรัก การอ่านหนังสือจำนวนหลากหลายเล่มของฉันทำให้ได้ รู้ความจริง ว่าสิ่งที่สลับซับซ้อนมากกว่าความคิดของมนุษย์ก็คงจะหนีไม่พ้นจาก
“ ความรัก ” คำว่าความรักอาจจะเป็นสิ่งที่พวกเราได้ยินกันมาแทบทุกวัน ไม่ว่าจะผ่านเรื่องเล่าของคนรอบข้าง
ผ่านเพลง ผ่านสื่อ หรือภาพคนรักกันบนท้องถนนที่เราเดินผ่านทุกวันก่อนไปทำงาน มันเหมือนกับว่า
ความรักนั้นลอยอยู่รอบๆตัวของพวกเราแทบตลอดเวลา แต่สิ่งที่แปลกคือมันอยู่ใกล้เรา
แต่เรากลับไม่สามารถนิยายตัวตนของมันออกมาได้อย่างชัดเจนนัก ความรักคืออะไร
เป็นเรื่องที่ให้คำจำกัดความได้ลำบากมาก มันเหมือนกับแต่ละคนก็ตีความและให้ความหมายของมันแตกต่างกันออกไป
ไม่ได้เหมือนกันเลยสักคน คนนี้ให้ความหมายของความรักว่าเป็นสิ่งสวยงามทำให้หัวใจพองโต
แต่กับอีกคนตีความว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เจ็บปวดและได้เติบโตเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากแล้วล่ะที่จะได้รู้จักกับความรักผ่านการสร้างความเข้าใจ คงหนีไม่พ้นการรู้จักความรักผ่านการมีความรักแล้วล่ะ
ความรักคืออะไร ใครจะตอบฉันได้บ้างล่ะ!
ชีวิตแสนเรียบง่ายแต่แอบยุ่งเหยิงเช่นทุกวันของเด็กเนิร์ดอย่างฉันช่างเป็นเรื่องที่แสนยากลำบาก
ที่จะได้เจอชายหนุ่มที่ถูกใจมากพอที่จะได้สานสัมพันธ์และได้ลองคบหาดูใจกันจนได้รู้จักความหมาย
ของความรักได้ดีมากยิ่งขึ้น ฉันจะทำยังไงดีน่ะ ความสับสนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของฉันทำให้ฉํนตัดสินใจที่จะเดินเข้าไป
ปรึกษาผู้เป็นพ่อของฉันที่เขาเองก็เป็นอาจารย์สอนจิตวิทยาในมหาวิทยาลัย ซึ่งเรื่องนี้เขาน่าจะให้ความคิดความเข้าใจ
ที่เข้าท่าไม่น้อยเลยถูกต้องไหมล่ะ แต่ว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเพราะพ่อไม่ได้บอกอะไรฉันเลยมีแต่คำแนะนำที่ว่า
ขอให้เจอกับความรักเร็วๆนะ แล้วลูกจะเข้าใจมันได้เอง โดยที่ไม่ต้องพึ่งคำอธิบายจากพ่อเลยล่ะ โอ้…ไม่เข้าใจเลยว่าความรักเนี่ย
เข้าใจยากขนาดนั้นเลยหรือไงนะ น่าแปลกจัง แต่แล้วก็เหมือนกามเทพนั้นรู้งานอย่างไม่ต้องรอกันนาน
เพราะขณะที่เดินชมการทดลองที่แสนน่าทึ่งในโถงใหญ่ของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อยู่นั้น ฉันก็ได้เจอกับ ลิวอิส
ชายหนุ่มลูกครึ่งคนหนึ่งโดยบังเอิญ สาบานได้เลยว่าทันทีที่ได้เจอกับเขาเหมือนกับหัวใจของฉันนั้นแทบหยุดเต้น
มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกจริงๆนะ มันเหมือนโมเมนท์นั้นมันวิเศษจนฉันอยากจะกดปุ่มหยุดเอาไว้เลย
แต่ก็แน่ล่ะเราทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ฉันสามารถยื้อเขาเอาไว้ได้นี่นา ฉันเข้าไปทักพ่อหนุ่มคนนี้ทันที
และได้รู้ว่าเขาเป็นรุ่นพี่ฉันปีนึง และบังเอิญอีกว่าเขาก็เรียนคณะเดียวกับฉันด้วย
นี่มันเกินคำว่าบังเอิญไปจนเรียกว่าเป็นพรหมลิขิตได้แล้วล่ะมั้ง
ความสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ถือเป็นเรื่องที่เชื่อมความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งคู่ได้อย่างดีเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ
เอาเป็นว่าเราสามารถหาเรื่องน่าสนใจมาพูดกันได้ตลอด ช่วงวันหยุดเราก็สามารถหาเรื่องไปเที่ยวกันได้ตลอด
จนฉันไม่ทันได้รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าเราสนิทกันอย่างรวดเร็วมากๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วจนฉันเองก็ตกใจ
ลิวอิสเป็นทั้งเพื่อนและคนที่ฉันไว้ใจ เขาเป็นที่ปรึกษาที่ฉันไว้ใจคนนึงเลยรองจากพ่อของตัวเอง
เขาสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือฉันได้ทุกครั้ง และฉันเองก็สามารถเป็นคู่คิดให้กับเขาได้ตลอด
หลายครั้งที่ฉันแอบรู้สึกว่าเขาเองก็น่าจะมีความรู้สึกดีๆให้กับฉันด้วย จนวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาเราก็ได้ตกลงคบหาดูใจกันอย่างจริงจังแล้วล่ะ
เขาให้ของขวัญที่น่ารักมากๆกับฉันคือ เมล็กทานตะวัน เขาบอกว่ามันเป็นสายพันธุ์ที่เขาตัดต่อพันธุกรรมเองกับมือ
เพราะมันสามารถเรืองแสงได้ตอนกลางคืนแต่เธอต้องเป็นผู้ควบคุมการเจริญเติบโตของมันด้วยตนเอง
แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายและน่าทึ่ง ฉันตื่นเต้นมากและพยายามเลี้ยงเจ้าทานตะวันน้อยจนมันเริ่มโตมากขึ้นทุกวัน
และในที่สุดฉันก็ได้เห็นมันเรืองแสง แต่ทว่ามันกลับไม่ได้เรืองแสงทั้งใบเหมือนอย่างที่ฉันคิด
แต่มันกลับเรืองแสงเป็นเหมือนกับคำบางอย่าง ฉันค่อยๆอ่านตัวอักษรบนกลีบทานตะวัน มันเขียนว่า You are my destiny
เป็นถ้อยคำที่น่ารักและโรแมนติกที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาเลย ลิวอิสน่ารักมาก
ความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งคู่เป็นไปด้วยดี
จนกระทั่งเขาได้รับทุนการศึกษาให้ไปเรียนต่อป.โท ที่แคนาดา เกี่ยวกับพันธุวิศวกรรมที่เขาสนใจมาโดยตลอด
นั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดเขาดูดีใจมาก มากเสียจนกระทั่งไม่ได้สังเกตเลย
ว่าฉันนั้นรู้สึกกังวลอย่างมากเพราะว่าฉันเคยได้ยินว่ารักแท้แพ้ระยะทาง มันเป็นหลายคู่นักต่อนักแล้ว
ฉันกังวลถึงขั้นนอนไม่หลับหลายคืน และสุดท้ายฉันก็ได้ตัดสินใจบอกบางอย่างกับเขาว่า
“เราเลิกกันเถอะลิวอิส” ทันทีที่เขาได้ยินแบบนั้นก็ตกใจมากและแทบไม่เชื่อหูของตนเองเพราะว่าเขารักฉันมากและรู้ดีว่าฉันก็รักเขามากเช่นกัน
เดี๋ยว…นี่เธอพูดแบบนี้เป็นเพราะเธอไม่รักฉันแล้วหรือเป็นเพราะอย่างอื่นกันแน่
ฉันยอมรับกับเขาว่าเป็นเพราะฉันกลัวว่าสุดท้ายแล้วเราจะต้องเลิกกันอยู่ดี และเลิกกันด้วยความรู้สึกไม่ดีด้วย
ลิวอิสรีบส่ายหน้าและคว้ามือฉันไปจูบพร้อมบอกว่า
เธอไม่จำเป็นต้องกลัวเพราะไม่ว่าตัวของเขาจะไปอยู่ที่ไหนขอให้จงรู้ว่าหัวใจของเขาอยู่ที่ฉันเสมอ
และไม่ว่าเราจะอยู่ห่างกันสุดขอบโลกความรักของเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
จากวันนั้นที่เขาพูดแบบนั้นจนวันนี้เราก็กำลังจะแต่งงานกันแล้ว
รู้ไหมว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ฉันคาดหวังเอาไว้มาก่อนและฉันมีความสุขมากๆที่ได้เจอความรัก
ที่แสนวิเศษและยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จากผู้ชายที่ฉันรักอย่างเขา และเขาก็ไม่เคยทำให้ฉันนอนร้องไห้เสียใจอีกด้วย
อย่างที่พ่อบอกแหละว่าคำว่าความรักฉันคงไม่ต้องฟังคำอธิบายจากพ่อเลยแม้แต่น้อย
เพราะลิวอิสได้บอกไว้อย่างละเอียดและลึกซึ้งอย่างที่สุดแล้ว